เริ่มจากเกมเลือกประธานสภา ก่อนจะเห็นว่า ยื้อยุดกันมา เป็นสัปดาห์แล้ว เพื่อไทยจะนั่งตำแหน่งนี้ ขณะที่ก้าวไกล ยืนยัน ยอมไม่ได้ เพราะตัวเองชนะเลือกตั้ง เป็นพรรคอันดับ 1
สาเหตุที่ยอมไม่ได้ อย่างที่วิเคราะห์กันไปหลายครั้งแล้ว นายพิธา มีความเสี่ยง ที่ จะไม่ได้นั่งนายกรัฐมนตรี เพราะ ยังขาดเสียงจากส.ว.อยู่ รวมถึงมีคดีหุ้น ITV อยู่ด้วย
การที่ก้าวไกล ได้ตำแหน่งประธานสภา จะทำให้สามารถโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีซ้ำได้ โดยไม่เปิดช่องให้โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนนอก
พบปลาตายเกลื่อนชายหาดบางแสน
ดีเอสไอ หารือ ก.ล.ต.-บก.ปอศ. สอบหุ้น “STARK” เร่งเอาผิดคนโกง เยียวยาผู้เสียหาย
แต่หากเป็นคนของพรรคอื่น ประธานสภา ซึ่งเป็นคนกำกับการโหวตอาจทำให้สถานการณ์พลิกไปได้คำพูดจาก สล็อตวอเลท
ยิ่งไปกว่านั้น เกมในการเลือกประธานสภา จะทำให้ เห็นเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร หากคนของเพื่อไทย บังเอิญได้เสียงข้างมากในสภา ก็อาจทำให้ ส.ว. ใช้เป็นข้ออ้างว่า ก้าวไกลไม่ใช่เสียงข้างมาก ในสภา และหันไปโหวตเลือกคนอื่นเป็นนายกรัฐมนตรี
ประเด็นนี้ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ออกมาให้ความเห็นสอดคล้องกัน คือ เชื่อว่าการโหวตเลือกประธานสภาฯ จะสะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือกันระหว่าง 8 พรรคจัดตั้งรัฐบาล หากผ่านไปได้ก็จะทำให้สว.มีความเชื่อมั่นว่า พรรคก้าวไกล จะเป็นแกนนำรวบรวมเสียงส่วนใหญ่ได้
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ ด่านเลือกประธานสภา จึงด่านสำคัญ ที่ก้าวไกล ต้องเดินอย่างระมัดระวัง ประนีประนอม เพื่อให้พรรคเพื่อไทย ยอมเทคะแนนเลือกคนของตัวเองเป็นประธานสภา
ด่านต่อไปคือ การเลือกนายกรัฐมนตรี แม้พรรคก้าวไกลจะยืนยันมาตลอดว่า เดินหน้าเจรจากับ สมาชิกวุฒิสภา มีแนวโน้มเป็นไปด้วยดี แต่ตามข้อมูลของกลุ่ม ส.ว. ออกมาบอกว่า คือ ย้ำว่า คนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องมีคุณสมบัติ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ รวมถึงเริ่มมีการบอกว่า คนเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ได้จำเป็นต้องมาจากพรรคอันดับ 1 เพราะ เชื่อว่า เสียงข้างมาก กับพรรคอันดับ 1 เป็นคนละเรื่องกัน รวมถึง ส.ว.หลายคนออกมาบอกว่า เขามีหน้าที่เลือกคนที่เหมาะสมตามแนวคิดของตัวเอง ส่วนจะตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก เสียงข้างน้อยเป็นเรื่องของ ส.ส.
แต่นั้นยังไม่นับรวมคดีความต่างๆ ที่ถูกร้องเรียนไว้หลายคดี ทั้งหมดนี้ ถือว่าเป็นด่านหินของพรรคก้าวไกล และนายพิธา ทั้งหมด ซึ่งต้องจับตาดูว่าจะผ่านไปได้หรือไม่