ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก แมตช์วีคที่ 32 คู่บิ๊กแมตช์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เตะไป 30 นัด 48 แต้ม จะเปิดโอลด์ แทรฟฟอร์ด รับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล ที่ก่อนนัดนี้นำเป็นจ่าฝูง แข่ง 30 นัดมี 70 แต้ม โดยคู่นี้จะเตะกันในเวลา 21.30 น.คู่นี้เพิ่งพบกันไปเมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ในเกมเอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีม ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเฉือนชนะ 4-3 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ขณะที่ในเกมลีก เมื่อเดือนธันวาคม ปีที่แล้วที่แอนฟิลด์ เสมอกันไป 0-0
"อาร์เตต้า" เชื่อว่าแชมป์พรีเมียร์ลีก จะถูกตัดสินในวันสุดท้าย
"เทน ฮาก" มั่นใจยังได้คุม "แมนยู" ในฤดูกาลหน้าต่อไป
ลิเวอร์พูล สร้างสถิติใหม่เหนือ แมนฯซิตี้ เกมชนะเชฟฯ ยูไนเต็ด
เอริก เทน ฮาก กุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด นัดล่าสุดเมื่อกลางสัปดาห์ บุกไปโดนเชลซี ยิงแซงชนะในช่วงทดเวลาเจ็บ 4-3 แบบน่าเจ็บใจ ที่แย่ไปกว่านั้นต้องมาเจอข่าวร้ายเมื่อเสียแนวรับอย่าง ราฟาแอล วาราน และ จอนนี่ อีแวนส์ เพิ่ม ทำให้เข้าไปอยู่ในลิสต์บาดเจ็บร่วมกับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ กับ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ที่เจ็บตอนซ้อมต้องพักราว 1 เดือนไปก่อนหน้านี้ ส่วน ลุค ชอว์ และ ไตเรลล์ มาลาเซีย พักแข้งยาวอยู่ก่อนเช่นกัน ทำให้คู่เซ็นเตอร์ในเกมนี้จะเป็น วิลลี่ คัมบวาล่า ดาวรุ่งวัย 19 ปี ยืนเล่นร่วมกับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ส่วน กาเซมีโร่ ก็ต้องดูในเรื่องความฟิตว่าจะลงยืนในแดนกลางหรือไม่ หลังถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วง 15 นาทีท้ายเกมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ด้าน มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่เป็นตัวสำรองเกมเมื่อวันพฤหัสบดี หวังเบียดคืนตัวจริง โดยเกมรุกยังมี อเลฮานโดร การ์นาโช่ กับ ราสมุส ฮอยลุนด์ เป็นตัวทีเด็ด
เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ชาวเยอรมัน พาลิเวอร์พูล เปิดบ้านชนะ เชฟฯ ยูไนเต็ด 3-1 เกมนี้จะมีการปรับทัพ ด้วยการส่ง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ยืนแบ๊กซ้าย และ วาตารุ เอ็นโด มิดฟิลด์ทีมชาติญี่ปุ่นที่ฟิตสมบูรณ์ลงยืนแดนกลาง โดยเป็น โจ โกเมซ และ ไรอัน กราเวนเบิร์ช ที่จะหลีกทางให้ตามลำดับ ด้าน อลีสซง เบ็คเกอร์, ดีโอโก้ โชต้า และ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ตามโปรแกรมทั้งหมดจะกลับมาซ้อมได้ในสัปดาห์หน้า ส่วน โฌเอล มาติป, เบน โดค, สเตฟาน บายเซติช และ ติอาโก้ อัลคาตาร่า ยังพักยาวเหมือนเดิม
ผู้เล่น 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : อ็องเดร โอนาน่า – ดีโอโก้ ดาโลต์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, วิลลี่ คัมบวาล่า, แอรอน วาน-บิสซาก้า – ค็อบบี้ เมนู, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ – อเลฮานโดร การ์นาโช่, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด – ราสมุส ฮอยลุนด์ ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ควีวิน เคลเลเฮอร์ – คอเนอร์ แบร็ดลี่ย์, อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, โจ โกเมซ -อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, วาตารุ เอ็นโด, โดมินิค โซบอสซ์ไล- โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ, หลุยส์ ดิอาซ
ความน่าจะเป็นของเกม แมนฯ ยูไนเต็ด หวังจะทำสถิติไม่แพ้ให้กับ ลิเวอร์พูล ต่อไป เหมือนกับที่เคยทำได้ใน 2 นัดฤดูกาลนี้ แต่มองแล้วอาจเป็นเรื่องยากไม่น้อย เนื่องจากทีมของ เอริก เทน ฮาก กำลังเผชิญปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บในเกมรับ บวกกับความมั่นใจของทีมหลังเพิ่งไปแพ้แบบในน่าให้อภัยมาที่กรุงลอนดอน ที่นักเตะทุกคนจะต้องกลับมาให้ได้ เกมนี้มีเพียงเสียงเชียร์ในโอลด์ แทรฟฟอร์ด เท่านั้นที่จะช่วงให้ทีมไม่เป็นรองมากนัก เพราะแมตช์นี้ ลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะมาใส่เต็มที่อย่างแน่นอน เพื่อรักษาตำแหน่งจ่าฝูงต่อไป เพราะรู้ผลในคู่ของคู่แข่งแย่งแชมป์ทั้ง แมนฯ ซิตี้ และ อาร์เซน่อลแล้ว เกมนี้แม้ภาพรวม "หงส์แดง" จะดูดีกว่าก็จริง แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นเกมแดงเดือด อะไรก็เกิดขึ้นได้ และมีสิทธิ์เป็นไปได้ทั้ง 3 หน้า แบบมุมที่จะออกแบ่งแต้มเป็นไปได้มากสุดคำพูดจาก สล็อตวอเลท
สกอร์ที่คาด เสมอ 1-1
เกร็ดน่าสนใจก่อนเกม – คู่นี้พบกันมาแล้ว 242 นัดในทุกรายการ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 92 นัด ลิเวอร์พูล ชนะ 81 นัด เสมอ 69 นัด -พบกันในพรีเมียร์ลีก 63 นัด แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 29 นัด ลิเวอร์พูล ชนะ 19 นัด เสมอ 15 นัด -แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ 5 จาก 20 เกมที่พบกับลิเวอร์พูลในยุคที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ คุมทีม นอกนั้นเป็นการ (เสมอ 8 แพ้ 7) -แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะลิเวอร์พูลได้เพียงเกมเดียวจาก 11 เกมหลังสุดในพรีเมียร์ลีก (เสมอ 4 แพ้ 6) ซึ่งก็คือเกมเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ครั้งล่าสุดที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะเกมลีกในโอลด์ แทรฟฟอร์ด เหนือ ลิเวอร์พูล คือเมื่อ เดือนกันยายน 2015 -ย้อนกลับเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว เกมแรกที่พบกันที่แอนฟิลด์ จบด้วยสกอร์ 0-0 เกมนั้น "หงส์แดง" มีโอกาสยิง 34 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล ไม่เคยทำประตูไม่ได้ในพบกัน 2 นัดกับ "ปีศาจแดง"ในเกมลีก โดยครั้งหลังสุดที่ ลิเวอร์พูล ไม่ชนะทั้ง 2 นัดเกิดขึ้น ในฤดูกาล 2007-2008 (แพ้ 1-0 และ แพ้ 3-0) -การชนะ ลิเวอร์พูล 4-3 ในรอบ 8 ทีมเอฟเอ คัพ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หากย้อนไปในฤดูกาล 2010-2021 และ ฤดูกาล 1998-1999 แมนฯ ยูไนเต็ด นั้นเคยชนะ 2 เกมในบ้านตัวเองในฤดูกาลเดียวกัน – แมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสยิงถึง 225 ครั้งในปี 2024 ซึ่งมากกว่าทีมอื่นๆ ใน 5 ลีกชั้นนำของยุโรป -อเลฮานโดร การ์นาโช่ เป็นนักเตะดาวรุ่งคนแรกที่ทำ 2 ประตูขึ้นไปในเกมพรีเมียร์ลีก 3 นัดในฤดูกาลเดียว นับตั้งแต่ไมเคิ่ล โอเว่น เคยทำได้ในปี 1998-99 -มาร์คัส แรชฟอร์ด ทำไปแล้ว 7 ประตูให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในการเจอกับลิเวอร์พูล มีเพียงสแตน เพียร์สัน ( 8 ประตู), จอร์จ วอลล์ และแซนดี้ เทิร์นบูลล์ (9 ประตู) ที่ทำประตูให้สโมสรได้มากกว่าในการเจอกับทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์ -โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ทำไป 13 ประตูจากการลงสนาม 14 นัดในการเจอกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้งในลีกและบอลถ้วย และเป็น 8 ประตูจาก 5 นัดหลังที่เล่นที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด -โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ของลิเวอร์พูล ทำประตูได้ใน 3 เกมลีกหลังสุดที่มาเยือน ยูไนเต็ด (5 ประตู) ไม่มีผู้เล่นคนใดเคยทำได้มากกว่า ซาลาห์ เลย ซึ่งแข้งทีมชาติอิยิปต์ ก็หวังจะสร้างสถิติเพิ่มเป็น 4 เกมเยือนติดต่อกันเหากยิงประตูได้ในนัดนี้ -โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ มีสถิติเทียบเท่า อลัน เชียเรอร์ โดยทำไปแล้ว 10 ประตูในการเจอกับปีศาจแดง ในเกมลีก
เช็กโปรแกรมบอล ผลบอลสดแบบเรียลไทม์ ได้แล้วที่เว็บไซต์ พีพีทีวี ตามลิงก์ด้านล่างนี้ โปรแกรมฟุตบอล และผลบอลสด : http://pptv36.tv/1i4n ตารางคะแนนฟุตบอล : http://pptv36.tv/1i4oคำพูดจาก เว็บสล็อต